3797 จำนวนผู้เข้าชม |
โดยปกติอุปกรณ์แสดงผลต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์กล้อง จอมอนิเตอร์ หรือแม้แต่กระดาษพิมพ์ภาพจะมีข้อจำกัดในการถ่ายทอดช่วงไดนามิกเรนจ์ได้แคบกว่าดวงตามนุษย์ ซึ่งมักจะเป็นอุปสรรคต่อการถ่ายภาพที่มีส่วนสว่างกับส่วนมืดแตกต่างกันมากอยู่ในเฟรมเดียวกัน เช่น บรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก หรือบรรยากาศที่มีท้องฟ้าแจ่มใสกับเงามืดของภูเขาอยู่ด้วยกัน ในกรณีเช่นนี้ไดนามิกเรนจ์จากส่วนสว่างจนถึงเงามืดจะกว้างเกินขีดความสามารถของอุปกรณ์แสดงผลหรือไฟล์สำเร็จรูป ส่งผลให้รายละเอียดของส่วนสว่างของภาพนั้นหายไป (Over) หากวัดแสงพอดีที่ส่วนมืดของภาพ ฟิลเตอร์ Graduated ND จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยปรับสมดุลแสงส่วนสว่างของท้องฟ้าให้พอดีกับภูมิทัศน์เบื้องล่าง นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ช่างภาพหลายคนเลือกใช้ฟิลเตอร์ชนิดนี้ในการสร้างสรรค์ทิวทัศน์ท้องฟ้าสุดตระการตา
เคยประสบปัญหาในการปรับค่าแสงให้พอดีทั่วทั้งภาพหรือไม่?
วัดแสงบริเวณพื้นดินให้พอดี ท้องฟ้ากลับขาวโพลนปานหิมะ
แต่พอชดเชยแสงลดลงให้ท้องฟ้ามีแสงที่พอเหมาะ พื้นดินกลับมืดปานหลุมดำ
ฟิลเตอร์ Graduated ND ช่วยได้!
สำหรับผู้ช่างภาพที่นิยมถ่ายภาพด้วยไฟล์ JPEG ที่ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์หลังกล้องเป็นหลัก ฟิลเตอร์ Graduated ND จะช่วยเก็บรายละเอียดของท้องฟ้าให้สมดุลกับแสงบนพื้นดิน ช่วยให้สามารถถ่ายภาพให้จบหลังกล้องได้อย่างง่ายดาย
ภาพตัวอย่างด้านล่างนี้แสดงให้เห็นตัวอย่างที่ท้องฟ้าขาวโพลนเมื่อปรับแสงให้พื้นด้านล่างพอดี
สำหรับช่างภาพมืออาชีพที่ทำงานกับไฟล์ RAW ด้วยฟิลเตอร์ Graduated ND บวกกับความสามารถของไฟล์ RAW จะช่วยให้สามารถเก็บรายละเอียดของส่วนสว่างได้มากขึ้น ขั้นตอน Post-edit จึงง่ายและประหยัดเวลามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกู้คืนรายละเอียดส่วนสว่างของภาพซึ่งถือเป็นส่วนที่ยากที่สุดของขั้นตอน Post-edit นั่นเอง
ฟิลเตอร์ Graduated ND มีให้เลือกใช้งานหลากหลายทั้งแบบ Hard edge และ Soft edge ส่วนใหญ่เป็นฟิลเตอร์แบบแผ่นซึ่งจำเป็นต้องใช้งานร่วมกับระบบอะแด็ปเตอร์โดยเฉพาะ ข้อดีของระบบนี้คือสามารถปรับตำแหน่งเส้นขอบในแนวตั้ง หรือหมุนให้พอดีกับองค์ประกอบของภาพได้ตามที่ต้องการ แต่มักจะมีขนาดใหญ่และราคาสูง
แต่ก็ยังมีฟิลเตอร์ Graduated ND อีกประเภทหนึ่ง คือ "ฟิลเตอร์แบบวงกลม" สำหรับสวมหน้าเลนส์ ฟิลเตอร์ประเภทนี้มักจะไม่สามารถปรับตำแหน่งตามแนวตั้งได้ แต่มีข้อดีในแง่ของความสะดวกในการใช้งาน ขนาดกระทัดรัด พกพาง่าย และราคาไม่แพง
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างมากในปัจจุบัน ทำให้ช่างภาพสามารถสร้างผลลัพธ์ที่มีลักษณะคล้ายฟิลเตอร์ Graduated ND ได้ด้วยฟังก์ชั่นของกล้องหรือใช้เครื่องมือ HDR จากโปรแกรมตกแต่งภาพในขั้นตอนการทำ Post-edit ขึ้นอยู่กับความถนัดและความชอบส่วนบุคคล แต่ทั้งนี้ยังคงต้องการไฟล์ที่มีรายละเอียดของส่วนมืดและส่วนสว่างมากพอ
สำหรับช่างภาพที่ต้องการลดขั้นตอนการทำงานและจบหลังกล้องให้ได้มากที่สุด ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
เราขอเสนอฟิลเตอร์ Hoya ProND GRAD ฟิลเตอร์ Graduated ND แบบวงกลมชนิด Blender type คุณภาพสูงออกแบบสำหรับใช้ปรับสมดุลแสงระหว่างส่วนมืดกับส่วนสว่างของภาพทิวทัศน์โดยเฉพาะ มาพร้อมเทคโนโลยี ACCU-ND เช่นเดียวกับฟิลเตอร์ ProND ของ Hoya ที่เคยมอบประสบการณ์ระดับมืออาชีพให้แก่ช่างภาพมาแล้วทั่วโลก มีให้เลือก 2 ความเข้มด้วยกัน ได้แก่
โดยลักษณะของฟิลเตอร์จะค่อยๆ ไล่ระดับความเข้มทั่วทั้งแผ่น เริ่มตั้งความเข้มสูงสุดที่ขอบด้านบนไล่ระดับมาเชื่อมกับขอบด้านล่างที่เป็นกระจกใสไม่ลดทอนแสง ซึ่งแตกต่างจากฟิลเตอร์แบบ Soft edge หรือ Hard edge ที่จะมีส่วน ND อยู่ที่ครึ่งบนและมีส่วนใสอยู่ที่ครึ่งล่าง เชื่อมกันด้วยจุดทรานซิชั่นไล่ระดับจากตรงกลางของฟิลเตอร์ ซึ่งการไล่ระดับความเข้มแบบ Blender type ของ Hoya ProND GRAD จะสามารถปรับใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ และง่ายกว่า แม้ในสถานการณ์หรือเส้นขอบฟ้าที่ยุ่งยากสำหรับฟิลเตอร์แบบ soft edge
Hard edge
Soft edge
Blender type
Hoya ProND GRAD ใช้เทคโนโลยีการเคลือบ ND ที่ช่วยให้การกระจายเม็ดสีสม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่น พร้อมทั้งไล่ระดับอย่างแม่นยำช่วยให้ช่างภาพสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
HOYA ProND Filter เป็นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีระดับสูงสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง และวีดิโอ ฟิลเตอร์ ProND ใช้กระจกออปติคัลใสคุณภาพสูงเอกสิทธิ์เฉพาะของ HOYA ผสมผสานกับการเคลือบโลหะ (Metallic coating) ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพื่อลดช่วงแสงเกือบทั้งหมดในช่วง Infrared (IR) เทคโนโลยี ACCU-ND ใช้กระบวนการเคลือบผิวพิเศษที่ช่วยถ่ายทอดสมดุลสีเป็นกลาง ถูกต้องสมจริงและเป็นธรรมชาติ โดยไม่ส่งผลกระทบใดกับภาพ