HOYA Effect Filter Line-up 2023

ในการถ่ายภาพสร้างสรรค์ ฟิลเตอร์เอฟเฟกต์เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการสร้างสีสันหรือเอฟเฟกต์ต่างๆ เพื่อให้ภาพถ่ายดูน่าสนใจและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น เพื่อความสะดวกในการเลือกฟิลเตอร์เอฟเฟกต์ให้เหมาะกับการใช้งาน ควิกมาร์เก็ตติ้งขอนำเสนอข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับฟิลเตอร์เอฟเฟกต์รุ่นต่างๆ ของ HOYA (2023 UPDATE) เลื่อนอ่านได้เลยครับ

ND FILTER LINE-UP

ฟิลเตอร์ ND

Neutral Density (ND) เป็นฟิลเตอร์ถ่ายภาพที่จำเป็นมาก ใช้สำหรับควบคุมปริมาณแสงที่ผ่านเลนส์ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ครีเอเตอร์สายวีดิโอใช้เพื่อตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ให้สัมพันธ์กับเฟรมเรท ในขณะที่มีความชัดลึก (depth-of-field) ที่ต้องการ

ฟิลเตอร์ ND แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ดังนี้

• ความเข้มน้อย (ND4-ND8) ช่วยลดความเร็วชัตเตอร์ในขณะที่ลดความชัดลึกในสภาพแสงแดดจ้า หรือใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด diffraction ด้วยการเปิดรูรับแสงกว้าง
• ความเข้มปานกลาง (ND16-ND200) ช่วยให้ช่างภาพเพิ่มโมชันเบลอให้วัตถุได้แม้อยู่ในสภาพแสงทั่วไปที่ความเร็วชัตเตอร์ของกล้องปกติแล้วไม่อาจทำแบบนั้นได้
• ความเข้มสูง (ND500-ND1000 / ND100000) แนะนำสำหรับการถ่ายภาพแนวสร้างสรรค์เหนือจินตนาการด้วยการใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้ากว่าปกติมากๆ

HD IRND ประกอบด้วยฟิลเตอร์ IRND เกรดพรีเมียมจาก HOYA มาพร้อมเทคโนโลยี ACCU-ND ที่ให้สีเป็นกลางไม่เพี้ยนแม้ในช่วงคลื่นอินฟราเรด (IR) กรอบเฟรมอะลูมเนียมบางพิเศษมีความทนทานสูงและลดการเกิดขอบมืดได้ดี มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ ดูแลทำความสะอาดง่าย เป็นตัวเลือกที่ไร้ที่ติสำหรับช่างภาพมืออาชีพที่ใช้ฟิลเตอร์ ND เป็นประจำ

ฟิลเตอร์ HD Mk II IRND มีทั้งแบบแยกชิ้นและแบบเป็นเซ็ต

HOYA Sq100 ฟิลเตอร์แผ่นเกรดพรีเมียมที่เกิดจากการผสมผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยล่าสุด มีทั้งฟิลเตอร์ IRND แบบเต็มแผ่นและแบบครึ่งซีกสำหรับช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการยกระดับสู่อีกขั้นของการถ่ายภาพ Landscape ผลิตจากกระจกออปติคเสริมแรงที่ผ่านกรรมวิธีทางเคมีเพิ่มความแข็งแรงได้มากกว่ากระจกทั่วไป 4 เท่า มาพร้อมเทคโนโลยี ACCU-ND, การเคลือบผิวป้องกันการสะท้อนแสงพร้อมคุณสมบัติป้องกันน้ำทั้งสองด้าน ฟิลเตอร์ให้สมดุลสีที่เป็นกลางที่สุด สีไม่เพี้ยน ไม่ถูกรบกวน จาก IR pollution เหมาะสำหรับการใช้งานที่ลุยๆ

ProND EX ฟิลเตอร์ ND รุ่นมาตรฐานของ HOYA ที่ครอบคลุมคุณสมบัติพื้นฐานและครอบคลุมความเข้มที่ได้รับความนิยมทั้งหมด ทั้ง ND8, 64, 500 และ 1000 มาพร้อมเทคโนโลยี ACCU-ND เพื่อป้องกันสีเพี้ยน กรอบเฟรมอะลูมิเนียมแข็งแรงมีเกลียวหน้าซ้อนฟิลเตอร์อื่นได้ ตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับเลือกใช้งานตามสถานการณ์

ฟิลเตอร์ Variable Density II ครอบคลุมค่า ND factor ตั้งแต่ 3 - 400 ชิ้นเดียวใช้แทนฟิลเตอร์ ND ปกติได้หลายชิ้น สะดวกและประหยัดกว่า สามารถปรับ ND แบบละเอียดได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์ กรอบเฟรมดีไซน์พิเศษช่วยลดการเกิดขอบมืดได้อย่างยอดเยี่ยม มีที่จับสำหรับปรับความเข้มได้ง่ายพร้อมเกลียวหน้าสำหรับปิดฝาครอบเลนส์ 

หมายเหตุ เนื่องจากกรอบเฟรมด้านหน้าของฟิลเตอร์ที่ใหญ่ขึ้นจึงต้องใช้ฝาครอบเลนส์ที่ใหญ่กว่าขนาดเกลียวหน้าของเลนส์ 1 ขนาด

ProND มีฟิลเตอร์ครอบคลุม ND factor หลากหลาย กรอบเฟรมมีเกลียวหน้าสำหรับการซ้อนฟิลเตอร์เพื่อสร้างสรรค์เอฟเฟกต์และการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ProND16 + ProND32 จะได้ ND factor เท่ากับ 500 ซึ่งให้เอฟเฟกต์ ND ที่เข้มมากสามารถถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนที่ได้อย่างง่ายดาย

หมายเหตุ การซ้อนฟิลเตอร์กับเลนส์มุมกว้างมีโอกาสเกิดขอบมืดได้

ฟิลเตอร์เฉพาะทาง มีความเข้มสูงมาก ลดแสงได้มากถึง 16 2/3 สต็อบ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพดวงอาทิตย์ เผยให้เห็นพื้นผิวของดวงอาทิตย์และสีสันชัดเจนโดยไม่โอเวอร์ (over-exposure) ในขณะเดียวกันก็เก็บรายละเอียดต่างๆ เช่น sun spot เอาไว้ได้ แนะนำสำหรับการถ่ายภาพสุริยุปราคา นอกจากนี้ยังสามารถใช้ใน สถานการณ์อื่นๆ เช่นการสร้างสรรค์เอฟเฟกต์ ND แบบนามธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการถ่ายภาพสถาปัตยกรรมและภาพ Landscape

คำเตือน : เมื่อใช้ฟิลเตอร์ ND ในการถ่ายภาพดวงอาทิตย์ห้ามส่องผ่านออปติคโดยตรง

ฟิลเตอร์ ND ครึ่งซีกชนิด Blender แบบวงกลมออกแบบมาเพื่อสร้างสมดุลแสงระหว่างส่วนมืดและส่วนสว่างของภาพ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ Landscape ในสถานการณ์ที่มีท้องฟ้าสว่างกับพื้นล่างมืด หรือใช้กับส่วนใดส่วนหนึ่งของผิวน้ำที่ต้องการให้เบลอ มาพร้อมเทคโนโลยี ACCU-ND และการเคลือบผิวป้องกันแสงสะท้อนพร้อมคุณสมบัติป้องกันน้ำทั้งสองด้าน กรอบเฟรม low-profile แบบหมุนได้เพื่อการปรับมุมให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม

การใช้ฟิลเตอร์ ND

คุณสมบัติของฟิลเตอร์ ND คือช่วยให้ควบคุมความเร็วชัตเตอร์ได้มากกว่า ด้วยการลดปริมาณแสงที่เข้าสู่เลนส์จึงสามารถเปิดชัตเตอร์ได้นานขึ้นในขณะที่การเปิดรับแสงเข้าสู่เซ็นเซอร์เท่ากันกับกรณีที่ถ่ายโดยไม่ใช้ฟิลเตอร์ในสถานการณ์เดียวกัน เช่น ภาพที่เปิดรับแสง 30 วินาทีด้วยฟิลเตอร์ ND 10 สต็อป เซ็นเซอร์กล้องจะรับแสงได้ในปริมาณเท่ากันกับภาพที่เปิดรับแสง 1/30 วินาทีโดยไม่ใช้ฟิลเตอร์ ND เมื่อใช้ฟิลเตอร์ ND ช่างภาพสามารถปล่อยแสงเข้าสู่เซ็นเซอร์ในปริมาณเท่าเดิมแต่ช้าลงจนเกิดเป็นเอฟเฟกต์โมชันเบลอ ปริมาณแสงบางส่วนที่ถูกฟิลเตอร์บล็อคเรียกว่า f-stop และทุกๆ 1 f-stop จะลดปริมาณแสงได้ครึ่งหนึ่ง หมายเลข ND ใช้แสดงเวลาเปิดรับแสงใหม่เทียบกับการเปิดรับแสงเริ่มต้นที่ 1 วินาที เช่น ที่เวลาเปิดรับแสง 1 วินาทีถ้าใช้ฟิลเตอร์ ND ลดแสง 6 สต็อป เวลาเปิดรับแสงใหม่ที่ได้คือ 64 วินาที อีกนัยหนึ่งคือ เวลาเปิดรับแสงใหม่คือ 64 เท่าของเวลาเปิดรับแสงเดิม ดังนั้นจึงชื่อว่า ND64 นั่นเอง สำหรับภาพรวมของ light transmission rate เทียบเป็น f-stop และ ND number แสดงไว้ตามตารางด้านล่าง

ฟิลเตอร์ ND มีหลายความเข้ม ตั้งแต่ ND4 ไปจนถึง ND100000 แต่โดยทั่วไปจะแบ่งได้ 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ : ความเข้มน้อย, ปานกลาง และแบบเข้มมาก

ND ความเข้มน้อย

Light ND filter นิยมใช้ในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตหรือใช้กับเลนส์ไวแสง F1.2 หรือ 1.4 ในช่วงเวลากลางวันเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์การเบลอฉากหลังที่นุ่มนวลหรือที่เรียกว่าการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ทำได้ง่ายด้วยการใช้เลนส์ไพร์มไวแสง F1.2 หรือ F1.4 เปิดรูรับแสงกว้างสุด แต่ความเร็วชัตเตอร์จะสูงตามด้วย และเนื่องจากกล้องบางรุ่นมีการจำกัดความเร็วชัตเตอร์สูงสุด (shutter speed limit) ที่ 1/4000s อาจทำให้เปิดรับแสงมากเกินไป (over-exposure) เพื่อที่จะรักษาการเปิดรับแสงที่พอดีไว้จึงต้องควบคุมความเร็วชัตเตอร์ด้วยฟิลเตอร์ ND แบบความเข้มน้อย เช่น ND4 หรือ ND8 นั่นเอง

ND ความเข้มปานกลาง

Middle ND filters เหมาะสำหรับการควบคุมการเคลื่อนไหวหรือการเบลอวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ เช่น การไหลของสายน้ำ การเคลื่อนที่ของคลื่นทะเลหรือผู้คนสัญจร ตัวอย่างที่เห็นได้ทั่วไป เช่น การถ่ายภาพน้ำพุถ้าไม่ใช้ฟิลเตอร์ ND และตั้งค่ากล้องมาตรฐานในสภาพแสงกลางวันภาพที่ได้น้ำของน้ำพุจะดู 'หยุดนิ่ง' วิธีเดียวที่จะทำให้ภาพดูไม่แข็งทื่อแบบนี้คือ ใส่เอฟเฟกต์การไหลให้กับน้ำพุ ด้วยการลดขนาดรูรับแสงลงประมาณ f/16 หรืออาจจะ f/22 โดยไม่ใช้ฟิลเตอร์ ND แต่การถ่ายภาพด้วยค่ารูรับแสงแคบมากๆ แบบนี้มีข้อเสียคือ อาจเกิด 'diffraction' ทำให้ความละเอียดของภาพไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้การถ่ายภาพด้วยเลนส์ไพรม์ไวแสงกับกล้องที่มีค่าความไวแสงต่ำสุดเพียง ISO200 อาจไม่สามารถลดการเปิดรับแสงได้มากพอที่ความเร็วชัตเตอร์จะช้าจนเกิดเอฟเฟกต์การไหลได้ การใช้ฟิลเตอร์ ND แบบความเข้มปสานกลางช่วยให้สามารถเลือกใช้ค่า F ที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยง 'diffraction' ได้ และสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ช้าพอที่จะเกิดเอฟเฟกต์การไหลได้ด้วย

ND ความเข้มสูง

Deep ND filters ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะการถ่ายภาพ Landscape แนวเหนือจินตนาการ ฟิลเตอร์กลุ่มนี้สามารถทำให้คน 'หายไป' จากภาพ cityscape ได้ด้วยการเกิดรับแสงนาน ภายใต้สภาพแสงเวลากลางวัน หรือใช้สำหรับถ่าย timelapse ให้ก้อนเมฆเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ฟิลเตอร์ ND กลุ่มนี้เช่น ND100000 ยังเหมาะสำหรับการถ่ายภาพดวงอาทิตย์ ปรากฏการณ์สุริยุปราคา โดยที่ไม่เปิดรับแสงมากเกินไป (over-exposure) ถ่ายทอดเนื้อสีได้ชัดเจน รวมถึงเก็บรายละเอียดบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ เช่น sun spot ได้อีกด้วย

HOYA's Effect Filter Line-up

ควบคุมการสะท้อนแสงบนผิววัตถุและเพิ่มคอนทราสต์ของสีเพื่อภาพที่สีสันสดใสยิ่งขึ้น

ถ่ายภาพระยะใกล้ได้สะดวกโดยไม่ต้องซื้อเลนส์มาโครราคาแพง เหมาะสำหรับถ่ายภาพดอกไม้หรือวัตถุขนาดเล็ก

กรองสีในช่วงแสง Light pollution คืนสีสันที่เป็นธรรมชาติให้ภาพถ่ายกลางคืนของคุณ

กระจายแสงจากแหล่งกำเนิดแสงลดคอนทราสต์เพิ่มเอฟเฟกต์ความดรามาติกให้ภาพถ่าย

เพิ่มแฉกให้แหล่งกำเนิดแสงเพื่อสร้างเอฟเฟกต์สตาร์ที่สวยงาม

เพิ่มแฉกขนาดปานกลางให้แหล่งกำเนิดแสงพร้อมเอฟเฟกต์ซอฟท์เบาๆ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและรื่นเริง

เพิ่มเอฟเฟกต์ซอฟท์แบบต่างๆ ให้ภาพถ่ายของคุณ มอบบรรยากาศที่ดูชวนฝันให้กับภาพ Landscape หรือเพิ่มความนุ่มเนียนให้กับภาพถ่ายบุคคล

ถ่ายภาพผ่านสเปกตรัมอินฟราเรดสร้างภาพขาวดำที่คอนทราสต์โดดเด่น หรือปรับแต่งเป็นภาพสีที่ไม่มีใครเหมือน

ปรับสมดุลเฉดสีและสีส้มในภาพถ่าย

แก้สีภาพที่ติดโทนฟ้าด้วยโทนสี amber warmth

แก้สีโทนเขียวและแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ ด้วยฟิลเตอร์ FL หรือลดแสงสีฟ้าที่มากเกินไปด้วย skylight 1B

ควบคุมคอนทราสต์ให้ภาพขาวดำได้มากกว่า

แก้สกินโทน เพิ่มความโดดเด่นให้ใบหน้าคนสำหรับภาพบุคคลระยะใกล้

เพิ่มสีสันให้ภาพ Landscape หรือภาพ Portrait แนะนำให้ใช้ร่วมกับฟิลเตอร์ CIR-PL เพื่อเพิ่มคอนทราสต์และความคมชัด