2957 จำนวนผู้เข้าชม |
ฟิลเตอร์โพลาไรซ์ (PL หรือ C-PL) ช่วยเพิ่มคอนทราสต์และสีสันที่สดใสให้กับภาพถ่ายด้วยการควบคุมแสงสะท้อน โดยฟิลเตอร์จะช่วยตัดแสงสะท้อนที่ไม่ต้องการบนพื้นผิวของวัตถุออกไป เช่น บนผิวน้ำ ผิวกระจก ใบไม้ อาคาร ฯลฯ ทำให้ท้องฟ้ามีสีสันที่สดใสขึ้น และช่วยขับเน้นสีจริงของวัตถุออกมา นับเป็นฟิลเตอร์ที่ขาดไม่ได้สำหรับการถ่ายภาพ Landscape ตลอดทั้งปี
"Happy Jump" โดย Kyaw Kyaw Winn | ใช้ฟิลเตอร์ PL
เคยผิดหวังกับเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่? ภาพที่ถ่ายได้ไม่สดใสและน่าประทับใจเท่าทิวทัศน์ที่กำลังเห็นเบื้องหน้า ถ้าเคย! ฟิลเตอร์ PL คือคำตอบ... ด้วยฟิลเตอร์นี้คุณจะสามารถจัดการกับแสงสะท้อนต่างๆ ได้โดยการหมุนเฟรมด้านหน้าของฟิลเตอร์เท่านั้น คุณจะสามารถทำให้น้ำทะเลดูใสขึ้นด้วยการตัดแสงสะท้อนบนผิวน้ำออกไป หรือเพิ่มคอนทราสต์ให้ท้องฟ้าดูเข้มและสดใสยิ่งขึ้น
ฟิลเตอร์ PL คือ ฟิลเตอร์โพลาไรซ์ที่ประกอบด้วยฟิล์มโพลาไรซ์ที่ถูกประกบด้วยกระจกสองชิ้น ฟิล์มโพลาไรซ์จะมีลักษณ์เป็นร่องเล็กๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งจะทำหน้าที่ตัด (ดูดซับ) แสงในทิศทางที่เฉพาะเจาะจง โดยปกติแสงในธรรมชาติจะสั่นในทุกทิศทางแต่เมื่อผ่านฟิลเตอร์โพลาไรซ์แสงจะเกิดการโพลาไรซ์ไปในทิศทางเดียว (Fig.1)
แสงส่วนใหญ่ที่สะท้อนจากพื้นผิวของวัตถุ เช่น ผิวน้ำหรือกระจก จะกลายเป็นแสงโพลาไรซ์ในทิศทางเดียว (Fig.2)
เฟรมด้านหน้าของฟิลเตอร์ PL สามารถหมุนเพื่อเปลี่ยนมุมของฟิล์มโพลาไรซ์ได้ จึงช่วยตัดแสงสะท้อนได้ตามความเหมาะสมและความต้องการ (ภาพด้านล่าง)
ฟิลเตอร์ PL ส่วนใหญ่จะมีเครื่องหมายรูปสามเหลี่ยม ▲ อยู่บนเฟรม โดยเมื่อหมุนให้เครื่องหมายชี้ขึ้นทิศทางของฟิล์มโพลาไรซ์จะอยู่ในแนวนอนและให้เอฟเฟกต์การตัดแสงสะท้อนสูงสุด แต่ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับทิศทางของแสงสะท้อนด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหมุนฟิลเตอร์เพื่อหามุมที่เหมาะสม ตรวจสอบผลลัพธ์ได้จากช่องมองภาพหรือจอ Liveview ของกล้อง
ฟิลเตอร์ PL ที่พบในตลาดส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบ C-PL หรือ CIR-PL (Circualr polarizing) ซึ่งเมื่อนานมาแล้วเคยมีฟิลเตอร์ PL แบบชนิดเชิงเส้น (Linear polarizing filter) ด้วย แต่ด้วยการมาของกล้อง แบบ half-mirrors ที่มีคุณสมบัติแบบเดียวกับฟิล์มโพลาไรซ์ เมื่อใช้งานร่วมกันจะเกิดการรบกวนกันระหว่าง half-mirror ของกล้องกับฟิล์มโพลาไรซ์ของฟิลเตอร์ PL ทำให้เกิดความผิดพลาดในการวัดแสงและระยะทาง ปัจจุบันจึงเกิดเป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ขึ้นมาเป็น CIR-PL นั่นเอง
ในฟิลเตอร์ CIR-PL จะมีการเพิ่ม "phase-contrast plate" เข้าไป (Fig.3) เมื่อแสงเดินทางผ่านแผ่นเพลทดังกล่าวจะเปลี่ยนเป็นแสงที่หมุนเป็นวงกลม ซึ่งคล้ายกับแสงธรรมชาติที่สั่นในทุกทิศทาง (Fig.4) เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รบกวนการทำงานของ half-mirror และฟิลเตอร์ low pass ของกล้อง
"ตัดแสงสะท้อน" เป็นเอฟเฟกต์ที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปของฟิลเตอร์ PL ภาพตัวอย่างด้านล่างแสดงให้เห็นการเปรียบเทียบ "เงาสะท้อนบนผิวน้ำ" โดยเมื่อใช้ฟิลเตอร์ PL แสงสะท้อนสีขาวที่กระจายอยู่ทั่วผิวน้ำจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเผยให้เห็นสีจริงของน้ำทะเลอย่างชัดเจน นอกจากนี้ฟิลเตอร์ PL ยังสามารถตัดแสงสะท้อนบนพื้นผิววัตถุอื่นๆ ได้ เช่น กระจกใส ใบไม้ หิน อาคาร พื้นดิน ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ฟิลเตอร์ PL จะไม่เกิดเอฟเฟกต์ต่อการสะท้อนแสงจากพื้นผิวที่เป็นโลหะ เช่น กระจกเงา ฯลฯ
ฟิลเตอร์ PL ช่วยตัดแสงสะท้อนบนผิวน้ำ สร้างความรู้สึกที่ดูโปร่งใส...สะอาดให้กับการถ่ายภาพทะเลหรือธารน้ำใสได้
ฟิลเตอร์ PL สามารถใช้ควบคุมเงาสะท้อนบนพื้นผิวกระจกใสได้ เช่น หน้าต่างโชว์หน้าร้าน ตู้โชว์สินค้า ฯลฯ
เมื่อตัดแสงสะท้อนบนใบไม้ออกจะทำให้เห็นสีจริงและความสดใสของมัน ในการถ่ายภาพดอกไม้จะช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับดอกไม้โดยการลดแสงสะท้อนที่ไม่ต้องการออกจากกลีบดอก
ฟิลเตอร์ PL สามารถนำมาใช้กับการถ่ายภาพแบบ indoor ได้ เช่น การถ่ายภาพสินค้า วัตถุขนาดเล็ก และอาหาร ซึ่งช่วยลดแสงสะท้อนจากพื้นผิวลง ทำให้สีสันดูสดใสยิ่งขึ้นและเห็นรายละเอียดพื้นผิววัตถุที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
เอฟเฟกต์ทั่วไปอีกอย่างของฟิลเตอร์ PL คือการทำให้ท้องฟ้ามีสีฟ้าที่เข้มและสดใสขึ้น เมื่อแสงแดดกระทบกับโมเลกุลในชั้นบรรยากาศ จะเกิดการกระเจิงของแสง ซึ่งฟิลเตอร์ PL จะทำหน้าที่ควบคุมเอฟเฟกต์ของการกระเจิงของแสงเหล่านี้ ทำให้สีฟ้าของท้องฟ้าเข้มขึ้น สร้างความเปรียบต่างกับทิวทัศน์เบื้องล่างและให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ
สีชมพูของกลีบดอกไม้ยิ่งดูโดดเด่นสวยงามยิ่งขึ้นเมื่อตัดกับสีท้องฟ้าที่เป็นสีน้ำเงินเข้ม
การเพิ่มสีน้ำเงินให้กับท้องฟ้าและลดแสงสะท้อนจากใบไม้ ทำให้ภาพมีคอนทราสต์ที่ดีขึ้น
ให้สีสันที่สดใสและคอนทราสต์ที่ดีระหว่างท้องฟ้ากับสีสันของใบไม้ที่เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
เฟรมของฟิลเตอร์ PL ชิ้นที่มีชื่อหรือรายละเอียดอื่นอยู่มักจะเป็น "เฟรมด้านหน้า" ในขณะที่อีกเฟรมที่ไม่มีมักจะเป็น "เฟรมด้านหลัง" ในการติดฟิลเตอร์ให้วางเฟรมด้านหลังเข้ากับเลนส์แล้วหมุนตามเข็มนาฬิกา
เมื่อต้องการถอดฟิลเตอร์ PL ให้จับที่เฟรมด้านหลังแล้วหมุนทวนเข็มนาฬิกา
ฟิลเตอร์ PL สามารถหมุนเพื่อเพิ่มหรือลดเอฟเฟกต์ได้ตามที่ต้องการ โดยการจับที่เฟรมด้านหน้าด้วยปลายนิ้วเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการถอดฟิลเตอร์ออกโดยไม่ได้ตั้งใจ
ในเนื้อหาส่วนถัดไปจะเป็นเทคนิค "How to use" สำหรับใช้งานฟิลเตอร์ PL เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ที่ดีที่สุด ลองนำไปใช้กันได้ครับ
การลดแสงสะท้อนบนผิวน้ำหรือใบไม้ให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การถ่ายภาพโดยวางฟิลเตอร์ให้ทำมุมกับพื้นดิน 30-40° ข้อควรระวัง : เอฟเฟกต์โพลาไรซ์จะไม่เกิดขึ้นเมื่อถ่ายภาพจากตำแหน่งด้านหน้าหรือบนกระจกเงาและพื้นผิวที่เป็นโลหะ
* เอฟเฟกต์จะไม่สมบูรณ์ในกรณีที่มีแสงสะท้อนมากเกินไป
"Swimming" โดย Iwasaki Yumi | ใช้ฟิลเตอร์ PL
ในการถ่ายภาพท้องฟ้าให้มีสีสันสดใสนั้นตำแหน่งของดวงอาทิตย์มีความสำคัญมาก ตำแหน่งที่ดีที่สุดคือให้ดวงอาทิตย์อยู่ด้านหลังของช่างภาพ องค์ประกอบภาพทำมุมกับดวงอาทิตย์ 90°
* เอฟเฟกต์จะลดลงเมื่อถ่ายภาพในสภาพอากาศที่มีเมฆมากหรือถ่ายภาพย้อนแสง
การสร้างเอฟเฟกต์นี้จะได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเมื่อถ่ายภาพวัตถุใกล้บริเวณเส้นขอบฟ้าในช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ที่ตำแหน่งสูงสุด หรือ ถ่ายภาพวัตถุใกล้ตำแหน่งสูงสุดในช่วงเช้าในขณะที่ดวงอาทิตย์อยู่ใกล้กับเส้นขอบฟ้านั่นเอง
"ELIXIR FROM HEAVEN" โดย MRIGANKAMOULI BHATTACHARJEE | ใช้ฟิลเตอร์ PL + ND
ก่อนลงมือถ่ายภาพให้ลองยกฟิลเตอร์ PL ขึ้นมาส่องดูด้วยตาเปล่า จากนั้นหมุนเฟรมด้านหน้าหรือขยับมุมไปมา หากแสงสะท้อนบนวัตถุมีการเปลี่ยนแปลง หรือท้องฟ้าด้านบนดูมืดลงหรือสว่างขึ้น หมายความว่าฟิลเตอร์สามารถใช้งานได้
ฟิลเตอร์ CIR-PL มีด้านหน้าและด้านหลังชัดเจน อย่าลืมดูให้แน่ใจว่าหันด้านหน้าเข้าหาตัวแบบที่กำลังถ่ายหรือไม่
* ภาพประกอบเพื่อการสาธิตเท่านั้น
ฟิลเตอร์ PL ไม่ได้มีไว้เพื่อใช้เอฟเฟกต์สูงสุดเสมอไป ตัวอย่างเช่น ในการภาพบรรยากาศริมน้ำ เช่น น้ำตกหรือแม่น้ำบนภูเขา อาจจะดีกว่าถ้าปล่อยให้มีแสงสะท้อนบ้าง เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกที่มีชีวิตชีวามากขึ้น หรือในกรณีที่สีฟ้าของท้องฟ้าดูเข้มเกินไป การลดเอฟเฟกต์โพลาไรซ์ลงอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ด้วยเหตุนี้ ช่างภาพจึงสามารถควบคุมปริมาณแสงสะท้อนได้ตามความต้องการและความเหมาะสม
"CHÓUDUÀN BÌ SĪ" โดย XǓGUÓZHÈN | ใช้ฟิลเตอร์ PL
เมื่อถ่ายภาพท้องฟ้าโดยใช้ฟิลเตอร์ PL บนเลนส์มุมกว้างพิเศษ อาจเกิดความไม่สม่ำเสมอในรูปได้ เรียกว่า "unveven polarization" หรือการเกิดโพลาไรซ์ที่ไม่สม่ำเสมอ ปัญหานี้หลีกเลี่ยงได้โดยการย้ายตำแหน่งมุมถ่ายภาพ หรือจำกัดการใช้เอฟเฟกต์ PL นอกจากฟิลเตอร์ PL แล้ว ฟิลเตอร์อื่นๆ เช่น ฟิลเตอร์แผ่น (ND ครึ่งซีก หรือฟิลเตอร์สีฟ้าแบบครึ่งซีก) ก็เป็นวิธีที่ดีในการลดสีท้องฟ้าลง
ฟิลเตอร์บางรุ่นอาจติดป้ายบอกว่าเป็นฟิลเตอร์แบบบาง (slim frame) แต่ในความเป็นจริงฟิลเตอร์ยังมีเฟรมที่หนาเกินไปอยู่ดี จึงอาจทำให้เกิดเงามืดที่มุมทั้งสี่ของภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ฟิลเตอร์ PL บนเลนส์มุมกว้างพิเศษ ปัญหานี้เรียกว่า "ขอบมืด (vignette) ฟิลเตอร์ PL ที่มีคุณภาพสูงจึงมักจะออกแบบและพัฒนาให้มีกรอบบาง (slim frame หรือ low profile) เพื่อรองรับการใช้งานบนเลนส์มุมกว้างพิเศษโดยไม่เกิดขอบมืดนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเฟรมที่ต้องหมุนได้อย่างฟิลเตอร์ PL ที่มักจะมีความหนากว่าฟิลเตอร์แบบอื่นเล็กน้อย ยิ่งต้องเลือกพิจารณาอย่างดีก่อนตัดสินใจซื้อ
ฟิลเตอร์ PL ไม่ได้ใช้เพื่อตัดแสงสะท้อนที่ไม่ต้องการเท่านั้น ในทางกลับกันสามารถใช้เพื่อเพิ่มการสะท้อนของแสง visible light ได้อีกด้วย
เมื่อหมุนเฟรมด้านหน้าไปที่ 90° จากตำแหน่งเอฟเฟกต์สูงสุด คุณจะสามารถสร้างภาพแสงสะท้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับการถ่ายภาพโดยไม่ใช้ฟิลเตอร์ นี่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการถ่ายทอดมุมมองของคุณ
* เครื่องหมาย ▲ อยู่ที่ด้านบนสุด อาจไม่ใช่เอฟเฟกต์สูงสุดเสมอไป
ใช้ฟิลเตอร์ PL (เอฟเฟกต์สูงสุด) | แสงสะท้อนบนผิวน้ำหายไปเกือบทั้งหมด
ใช้ฟิลเตอร์ PL (เอฟเฟกต์ต่ำสุด) | เอฟเฟกต์ลดแสงสะท้อนเพิ่มขึ้น เงาสะท้อนของท้องฟ้าและแอ่งน้ำน้อยลง
ไม่ใช้ฟิลเตอร์ | ไม่มีเอฟเฟกต์ลดแสงสะท้อนในภาพ
ด้วยฟิลเตอร์ PL คุณสามารถควบคุมเอฟเฟกต์แสงสะท้อนให้เพิ่มหรือลดได้ แต่ถ้าไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าเอฟเฟกต์แบบไหนดีที่สุดในขณะที่กำลังถ่ายภาพ คุณสามารถถ่ายภาพหลายๆ มุมด้วยเอฟเฟกต์ PL สูงสุด ปานกลาง หรือต่ำสุด แล้วจึงค่อยเลือกเอฟเฟกต์ที่ดีที่สุดในภายหลัง
"Rice field" โดย Tang Pui Yee | ใช้ฟิลเตอร์ PL
ด้วยฟิลเตอร์ PL คุณยังสามารถทำให้รุ้งดูชัดเจนขึ้นได้ด้วยการเพิ่มแสงสะท้อน นอกจากนี้ยังใช้ได้ผลดีกับสีรุ้งอื่นๆ ด้วย เช่น เมฆสีรุ้ง (iridescent clouds) และน้ำแข็ง
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่ารุ้งจะหายไปเมื่อตัดการสะท้อนออก
"Brilliance" โดย Nohara Kenji | ใช้ฟิลเตอร์ PL
โดยปกติเราสามารถใช้ฟิลเตอร์หลายอันร่วมกันได้เพื่อภาพถ่ายที่น่าสนใจยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น กรณีที่กำลังถ่ายภาพทัศนียภาพที่เป็นน้ำ เช่น น้ำตกหรือลำธาร สามารถใช้ฟิลเตอร์ PL ร่วมกับฟิลเตอร์ ND (ลดแสง) เพื่อภาพที่สีสันสดใสและให้ความรู้สึกที่ดูเคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กัน หรืออาจใช้ฟิลเตอร์ PL ร่วมกับฟิลเตอร์แผ่นเพื่อการควบคุมแสงที่ดียิ่งขึ้น
ไม่ใช้ฟิลเตอร์
ใช้ฟิลเตอร์ PL | เพิ่มเอฟเฟกต์ PL เพื่อให้ใบไม้และมอสในฤดูใบไม้ร่วงดูสดใสมากขึ้น
ใช้ฟิลเตอร์ PL + ฟิลเตอร์ ND | ลดความเร็วชัตเตอร์ให้ช้าลงด้วยการใช้งานร่วมกับฟิลเตอร์ ND (neutral density) สร้างความเคลื่อนไหวให้กับใบไม้และน้ำตก
ไม่ใช้ฟิลเตอร์
ใช้ฟิลเตอร์ PL | ฟิลเตอร์ PL ช่วยลดแสงสะท้อนที่ด้านหน้าของแม่น้ำให้ความรู้สึกที่ดูใสยิ่งขึ้น แต่เนื่องจากตำแหน่งของดวงอาทิตย์ทำให้ไม่เกิดเอฟเฟกต์ท้องฟ้าที่เข้มขึ้น
ใช้ฟิลเตอร์ PL + ฟิลเตอร์ ND | ดึงสีฟ้าของท้องฟ้าออกมาด้วยการใช้ส่วนที่เป็นสีเทาของฟิลเตอร์ ND ครึ่งซีกเพื่อลดปริมาณแสงลง
แม้ฟิลเตอร์ PL จะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการถ่ายภาพ Landscape แต่ฟิลเตอร์ PL ก็มีจุดประสงค์ในการใช้งานที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากลองถ่ายภาพด้วยฟิลเตอร์ PL แล้วถ้าพบว่าผลลัพธ์ที่ได้ไม่เหมาะกับทิวทัศน์เบื้องหน้า อาจจำเป็นต้องงดใช้ฟิลเตอร์ PL ในสถานการณ์นั้น จำไว้เสมอว่าเพราะฟิลเตอร์ PL สามารถ "ควบคุม" การสะท้อนแสงได้จึงมีทางเลือกที่หลากหลายในการนำเสนอแนวคิดของช่างภาพ
"Fire mirror" โดย Iguchi Akishi | ใช้ฟิลเตอร์ PL
HOYA มีฟิลเตอร์ PL หลายแบบโดยทุกแบบต่างมีจุดประสงค์หลักเดียวกันคือการปรับแสงสะท้อน แต่จะแตกต่างกันในแง่ของคุณสมบัติเพิ่มเติมที่เพิ่มเข้ามาในแต่ละรุ่น เช่น การเคลือบกันน้ำ ป้องกันคราบน้ำมัน รอยนิ้วมือ และการเคลือบเพื่อป้องกันแสงสะท้อน (anti-reflective coating) คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานและการทำความสะอาดที่ง่ายยิ่งขึ้นให้แก่ช่างภาพ และต่อไปนี้เป็นปัจจัยหลักที่ควรนำมาประกอบการตัดสินใจเลือกฟิลเตอร์ PL
Models: HD nano CIR-PL | HD CIR-PL
ฟิล์มโพลาไรซ์ (polarizing film) เป็นส่วนประกอบสำคัญของฟิลเตอร์ PL สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดดังนี้ : ชนิดที่มีการส่งผ่านสูง (high-transmission type) และชนิดทั่วไป ฟิล์มโพลาไรซ์ทั่วไปจะทำความเร็วชัตเตอร์ช้าลงประมาณ 2 สต็อป ในขณะที่ฟิล์มโพลาไรซ์ชนิด high-transmission จะทำให้ความเร็วชัตเตอร์ช้าลงเพียง 1 สต็อปเท่านั้น ข้อดีของฟิล์มชนิดนี้คือส่งผลต่อความเร็วชัตเตอร์น้อยกว่า และแทบจะไม่มืดลงเลยเมื่อมองผ่านช่องมองภาพของกล้อง SLR ดังนั้นฟิล์มชนิด high-transmision จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากต้องการติดฟิลเตอร์ PL ทิ้งไว้ที่เลนส์โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าแสงจะมืดลง
Models: HD nano CIR-PL | HD CIR-PL | FUSION ANTISTATIC CIR-PL | FUSION ONE CIR-PL
การเคลือบป้องกันน้ำและคราบน้ำมัน (water and oil-repellent coating) จะป้องกันไม่ให้น้ำและน้ำมันเกาะแน่นที่ผิวหน้าของฟิลเตอร์ ช่วยให้สามารถเช็ดออกได้ง่าย แม้กระทั่งสิ่งสกปรกหรือแม้แต่รอยนิ้วมือ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดในการถ่ายภาพริมแม่น้ำหรือสภาพอากาศที่ฝนตก ความง่ายในการทำความสะอาดด้วยผ้าเช็ดเลนส์ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดทำให้ฟิลเตอร์ที่มีการเคลือบป้องกันน้ำและคราบน้ำมันเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้
ป้องกันแม้กระทั่งปากกามาร์คกิ้งแบบ oil-based และป้องกันหยดน้ำเกาะได้อีกด้วย
* ฟิลเตอร์ที่แสดงในภาพเป็นฟิลเตอร์ UV
Models: HD nano CIR-PL | HD CIR-PL | FUSION ANTISTATIC CIR-PL, FUSION ONE CIR-PL
แสงแฟลร์ (flare) และโกสต์ (ghost) อาจเกิดขึ้นได้เมื่อเกิดการสะท้อนแสงบนผิวหน้าของกระจกฟิลเตอร์ การเคลือบป้องกันแสงสะท้อน (anti-reflection coating) ช่วยลดแสงสะท้อนทำให้ภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ยิ่งเปอร์เซ็นต์ (%) ของการสะท้อนที่พื้นผิวเข้าใกล้ 0 มากเท่าไหร่ยิ่งบอกถึงคุณภาพการเคลือบที่ดีขึ้นเท่านั้น โดยฟิลเตอร์ HD nano เป็นฟิลเตอร์ที่มีคุณภาพระดับท็อปคลาสเมื่อเทียบกับบรรดาฟิลเตอร์ PL ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน
* ฟิลเตอร์ที่ใช้ในภาพประกอบเป็นฟิลเตอร์ UV
Models: FUSION ANTISTATIC CIR-PL, FUSION ONE CIR-PL
การทำให้ขอบด้านนอกของกระจกฟิลเตอร์เป็นสีดำช่วยป้องกันการสะท้อนที่อาจเกิดขึ้นภายในฟิลเตอร์ ซึ่งช่วยลดการเกิดแสงแฟลร์และโกสต์เมื่อถ่ายภาพย้อนแสง
"Rost flower God's work" โดย Kuniyo Yoda | ใช้ฟิลเตอร์ PL
* ภาพผลงานที่มีเครดิตใต้ภาพที่ปรากฏในบทความเป็นผลงานที่ได้รับรางวัล International Filter Photo Contest