ฟิลเตอร์อินฟราเรด หรือที่มักจะเรียกกันสั้นๆ ว่า ฟิลเตอร์ IR เป็นฟิลเตอร์สามารถตัดช่วงแสง Visible light (400 -700 นาโนเมตร) ได้โดยจะยอมให้ช่วงสีที่ผ่านได้คือช่วงสีแดงของสเปคตรัม
เดิมทีถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการถ่ายภาพอินฟราเรดในยุคฟิล์ม แต่ก็สามารถใช้กับกล้อง DSLR ในปัจจุบันได้เช่นกัน
การถ่ายภาพด้วยฟิลเตอร์อินฟราเรด จะได้ภาพถ่ายที่มีสเน่ห์เฉพาะตัว และแตกต่างจากการถมองด้วยตาเปล่าโดยสิ้นเชิง นั่นคือฟิลเตอร์จะเปลี่ยนใบไม้สีเขียวให้กลายเป็นสีขาว หรือเปลี่ยนท้องฟ้าให้สีเข้มขึ้นเช่นเดียวกับการใช้ฟิล์มเก่า
การถ่ายภาพอินฟราเรดจะต้องคำนึงถึงชนิดของกล้องที่ใช้ถ่ายด้วย เช่น หากถ่ายด้วยกล้องดิจิทัลจำเป็นต้องปรับตั้งค่าหลายอย่างก่อนถ่าย เนื่องจากช่วงแสงอินฟราเรดอาจะมีผลกับกล้องดิจิทัล เช่น โฟกัสคลาดเคลื่อน หรือกล้องอาจจะพยายามปรับแก้สีให้อัตโนมัติ
หากเป็นไปได้แนะนำให้ถ่ายภาพด้วยไฟล์ RAW ในโหมด monochrome ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เนื่องจาก infrared rays ให้ตำแหน่งโฟกัสที่ต่างออกไปเมื่อเทียบกับ visible rays แม้ว่าจะทำการโฟกัสด้วยโหมดออโต้โฟกัสก่อนแล้วค่อยติดฟิลเตอร์ก่อนถ่ายภาพ แต่ภาพที่ได้ก็อาจจะโฟกัสไม่ชัด ดังนั้นควรจะเช็คตำแหน่งโฟกัสอีกครั้งก่อนถ่ายภาพเพื่อให้แน่ใจว่าภาพที่ได้จะเป็นภาพที่โฟกัสได้คมชัดถูกต้อง
เลนส์มือหมุนบางรุ่นในยุคฟิล์มจะมีค่า infrared index สลักอยู่บนบอดี้ด้วย แต่ไม่พบในเลนส์ออโต้โฟกัสปัจจุบันแล้ว ด้วยเหตุผลนี้สิ่งที่ควรทำคือค่อยๆ โฟกัสขณะถ่ายภาพ หรือ ถ่ายภาพด้วยความชัดลึกมาก
ฟิลเตอร์อินฟราเรดสามารถลดแสงได้มาก ส่วนจะมากเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับกล้องแต่ละรุ่น แต่โดยทั่วไปจะลดแสงไปประมาณ 6-10 สต็อป เพราะฉะนั้นหากมีวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาในเฟรม จะยิ่งทำให้ภาพโดดเด่นน่าสนใจยิ่งขึ้น
เนื่องจากความเร็วชัตเตอร์ช้าลง จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้องในการถ่ายภาพด้วย และการถ่ายภาพอินฟราเรดจะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากในช่วงเวลากลางวัน หรือช่วงบ่ายที่มีแดดจัด